ขอต้อนรับสู่ "เจอนั่น" ครับ

ผมชื่อ "โจ" นะครับ Blog นี้ผมทำขึ้นมาเพื่อบันทึกเรื่องราว ประสบการณ์ และความทรงจำดีๆของผมไว้ครับ (ทำไว้ให้ตัวเองอ่านนั่นแหละครับ)

สำหรับเรื่องการวางแผนการเงิน เศรษฐกิจการลงทุนผมทำไว้อีก Blog นะครับชื่อ "Mr.LINK" (คลิ๊กเลยจ้า -->http://mrlinkblog.wordpress.com)

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

น้ำท่วมประเทศไทย

กลับมาอีกครั้งครับ ตอนนี้ทราบผลสอบ CFA ค้าบ ไม่ผ่านนะฮ้าบ TT

เลยสมัครสอบกะลุยอีกรอบเพราะได้ Band 9 จาก 10 เสียดายจังเลยครับ ได้คนที่อยู่ระดับ 20% ขึ้นไปของ Top คนไม่ผ่าน

555 ยังไงก็ไม่ผ่านอยู่ดีนั่นแหละครับ

ตอนนี้ ถ้าไม่ทำงานก็อ่านหนังสืออยู่บ้านครับ ภาษาอังกฤษที่ไปลงเรียนก็ Drop ไปแล้ว เพราะเอาเวลามาอ่านหนังสือครับ

ช่วงนี้ก็น้ำท่วมครับ แต่น้ำยังมาไม่ถึงบ้านผมนะ เสียวอยู่ ถ้ามาก็ได้หยุดยาวละคับพี่น้อง

ป.ล. CFP 5+6 อบรมแล้ว สนุกดีครับ ไว้ว่างๆจะมาแชร์ ให้สอบเสร็จก่อน
ป.ล.2 สอบ CFP Paper3 (Module 3&4) ผ่านแล้วจ้า เหลืออีกเล่มเดียว ปี 55 ค่อยว่ากัน

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ภารกิจต่อไป

สวัสดี วันก่อนวันเลือกตั้งนะครับ ยังไงพรรคไหนจะชนะ ก็ต้องระวังพอร์ตการลงทุนกันให้ดี เพราะปัญหาหลักๆไม่ได้มาจากการเมือง คงมาจากปัญหาเศรษฐกิจของ US และ Europe มากกว่า

เฮ้ยๆ ไม่ใช่นักวิเคราะห์ 555

ตอนนี้ผมเองก็ได้ปิดบล็อก Journey ไปแล้ว เพราะ ไม่รู้ว่าจะทำแยกทำไม ผมก็ทำบล็อกเดียวแล้วแบ่งหัวข้อดีกว่าครับ

ช่วงนี้หลังจากสอบ CFA เสร็จก็เป็นที่วิตกจริตของผมเหมือนกันว่า จะผ่านหรือไม่ ก็ต้องรอดูกันไปครับ ทำเต็มที่แล้ว สำหรับภารกิจต่อไป คงเป็นเรื่องการเตรียมตัวเรียนต่อครับ ยังไม่แน่ใจว่าจะเข้าที่ไหน ในไทยหรือต่างประเทศ แต่ที่นี่ ผมเองก็ได้ไปลงเรียนพิเศษ ภาษาอังกฤษที่ Fast English มีเพื่อนแนะนำมาครับ ราคาก็ไม่แพง ผมฟังแล้วก็..................เร็วดีเหมือนกัน ต้องกลับมาทบทวนครับ ยังไงก็คงเตรียมสอบ TOEFL ไปก่อน แล้วก็เตรียมเรื่อง GMAT ไปด้วย ในขณะเดียวกันก็คงหาที่เรียนไปเรื่อยๆ ที่ไหนมีทุนก็คงค้นหาไปแหละครับ

นอกจากนี้ ผมเองก็กำลังจะลงคอร์สเรียน CFP Module 5 และ 6 โดย Module 5 คือ การวางแผนภาษีและมรดก ในขณะที่ Module 6 คือ การจัดทำแผนการเงินครับ ถือเป็น 2 Module สุดท้ายของ CFP ครับ ซึ่งผมเรียนไป 4 Module แล้ว ตอนนี้ก็กำลังคิดว่าจะลงของที่ไหนดี ระหว่างของ ThaiPFA หรือ ของ ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องจุฬาฯครับ

แต่.............ผมเองก็คงไม่เรียนอย่างเดียวหรอก การสอบ CFP ชุดวิชาที่ 3 (Module 3+4) ที่ผมสอบตกไป 2-3 คะแนน ผมจะกลับมาสอบอีกครั้งช่วงต้น ก.ย. เพราะฉะนั้นก็เตรียมตัวกันก่อนแต่เนิ่นๆเลยครับ เพราะหลังจากผมสอบ CFA แล้วรู้สึกว่า เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากเลยครับ ตอนสมัยเรียน ผมก็เห็นความสำคัญของเวลานะ แต่พอมาทำงาน ผมก็ปล่อยให้มันผ่านๆไปครับ (แย่อะ 55)

สุดท้ายนี้ก็ต้องรอดูกันไปครับ ว่าผมจะทำอะไรต่อไปในช่วงอีกครึ่งปีให้หลัง รับรองว่าต้องมันส์สุด ตาม Conecept การใช้ชีวิตของผม "Everyday in Everyway, I am getting better & better. So, my Life is Exciting."

วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สอบ CFA เสร็จแล้ว

สอบ CFA เสร็จแล้วครับ ยากมากมายเลยอ่ะ ไม่รู้ว่าจะผ่านไหมอ่ะ

ลำดับต่อไป มีเวลาไปดูหนัง หาหนังสืออ่าน แล้วก็เรียนพิเศษเพิ่มเติมจ้า

ตอนนี้ก็ว่าจะย้ายจาก Blog นี้ไปทำ Wordpress ดูนะ แต่เหมือนลงโปรแกรมที่เครื่องไม่ได้อ่ะครับ

ก็มาอัพไว้ก่อนละกันนะ บาย

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554

CBA

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีที่ผมเรียนอยู่ก็มีกิจกรรมหนึ่งที่นิสิตคณะเรา ได้เข้าร่วมทำกิจกรรมในช่วงปิดเทอมใหญ่ นั่นคือ "บริษัท จำลองจุฬาฯ จำกัด หรือ Chulalongkorn Business Administrative(CBA)" สำหรับผมนั้นได้เข้าร่วมในช่วงปิดเทอมปี 1 และปี 2 โดยช่วงปี 1 ผมเข้าร่วมในตำแหน่ง "Sales Professional หรือ SP" ซึ่งผมก็ได้เข้ารับการอบรมการขายบ้าง แต่กิจกรรมนี้ก็สนุกตรงที่มีเพื่อนๆเรานี่แหละ มาร่วมขายของด้วยกัน





นอกจากนี้ยังมีการไปอบรมนอกสถานที่ด้วยครับ ตอนนั้นบริษัท Advance Agro หรือที่เค้าขายกระดาษ Double A ติดต่อ CBA มาผมก็เลยไปเที่ยวโรงงานทำกระดาษเค้าซะเลย



SP ที่มาร่วมกิจกรรมของ CBA นั้น ส่วนใหญ่จะขายของ เพื่อประสบการณ์ของตนเอง อบรมหาความรู้ และได้รู้จักเพื่อนๆต่างคณะมากมาย การขายของนี่เองนอกจากเราจะได้รับค่า Commission แล้วเรายังได้รับ Point ด้วยครับ ซึ่งเค้ากำหนดไว้ว่าถ้าเกิน 2,000 แต้มก็ผ่านงานครับ สำหรับตัวผมนั้น




ก็ได้ประมาณ 3,200 แต้มครับ ซึ่งแต้มแบ่งเป็นส่วน Direct Sales คือขายตรง นำเสนอสินค้าต่างๆให้กับลูกค้า เช่น ทีวี MP3 Notebook ตู้เย็น ขนม เครื่องสำอางค์ครับ อีกด้านซึ่งเป็นด้านที่ผมชอบมาก เพราะตัวไม่ค่อยเป็นคนชอบขายตรงเท่าไร คือการตั้ง Booth ขายสินค้า หรือ Counter Sales ครับ จึงได้แต้มจากฝั่งนี้เยอะหน่อยครับ


ช่วงเวลาปี 1 ขึ้นปี 2 นั้นผมสนุกสนานมากครับ ได้ตั้ง Booth ขายของตามสถานที่ต่างๆทั้ง KBank สำนักงานใหญ่ SCB Park ร.พ.จุฬาฯ สาทรซิตี้ ซึ่งยอดขายที่ได้รับต่อครั้งที่ผมไปตั้ง Booth ขายประมาณ 5,000 - 20,000 บาทครับ ซึ่งก็แล้วแต่ที่จะออกไปนะ งานนี้ก็ได้ร่วมมือกับเพื่อนๆครับ ได้เที่ยว ได้ตังค์ด้วย แต่ก็เอามาหักค่า TAXI นะ 5555 (นอกจากนี้ยังมีตั้ง Booth ขายชุด และอุปกรณ์สำหรับนิสิตในมหาลัยฯด้วยครับ)


เมื่อผมขึ้นปี 3 นั้น เพื่อนๆแต่ละคนต่างหากิจกรรมทำต่างๆนานา โดยเฉพาะการไป Work&Travel ครับ ตอนนั้นก็เสียดายเหมือนกันนะครับแต่เราเองก็พูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง แถมค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็สูงด้วย ถึงแม้ว่ารายได้ที่ได้กลับมาจากทำงานจะคุ้ม แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่ทำอะไรก็ได้ที่กทม.ดีกว่าครับ แล้วเผอิญช่วงนั้น CBA2008 เค้ารับสมัครทีมงานพอดีครับ




รูปสวยๆ เท่ๆด้านบนนั้น ไม่มีผมหรอกครับ พวกเค้าเป็นกลุ่มผู้บริหารตั้งแต่แรกครับ ซึ่งโครงสร้างจะมีกลุ่มที่ดูแล Product แต่ละสายตั้งแต่อุปกรณ์เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ ขนม จนถึงเครื่องสำอางค์ครับ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม GM และกลุ่มพี่ๆโครงการพิเศษ(จัดอบรมสำหรับบุคคลภายนอก ในช่วงเย็น)


ใน CBA ครั้งนี้ผมรับหน้าที่ในตำแหน่ง "Human Resource Manager" แต่ไม่ใช่หัวหน้านะ เค้าเป็น HR Director 555 ตอนนั้นก็ได้รู้จักน้องๆ SP ที่มาทำงานมากมายเลยครับ เรกาช่วยดูแลเรื่องการเช็คชื่อ การประชาสัมพันธ์ร่วมกับฝ่าย PR การคำนวณแต้ม การรับรองที่ออก Counter Sales ได้ทำหลายอย่างดี มีความสุขครับ ทำตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมจนเกือบเปิดเทอมเลย ประสบการณ์แบบนี้มันก็ไม่ได้หากันง่ายๆนะ บริษัทที่นิสิตจะได้บริหารกันเอง ผมก็ถือว่า โชคดีที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่ๆเค้า ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากมาย CBA เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของผม ที่ทำให้ผมได้รู้จักเพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้อง และได้ทำประโยชน์ให้กับคณะฯ เพราะ "CBA ทำงานด้วยใจ คืนกำไรสู่สังคม" ครับ




ภาพสุดท้าย(ไม่ค่อยชัด) เป็นงานเลี้ยงปิดบริษัท - -" ...............เอ่อไม่ได้เจ๊งนะครับ แต่บริษัทเปิดให้น้องๆ SP ได้เข้ามาหาประสบการณ์ประมาณ 2-3 เดือนครับ เมื่อเปิดเทอมทุกคนก็กลับเข้าสู่โลกแห่งความจริงครับ


อย่างไรก็ตาม กิจกรรมแบบนี้หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว นอกจากมหาลัยฯของท่าน ลองเข้ามารู้จักสักครั้งนึงซิครับ แล้วจะพบว่ามันสนุกกว่าทำ AMWAY กับ ขายประกันชีวิตอีก (เอ๊ะ! ยังไง 555)(มันชีวิตจริงน่ะ)

วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554

ชมรมวาทะ


ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้นครับ กิจกรรมแรกสุดที่ผมได้ทำตอนเข้ามหาลัยฯ คือ เข้าร่วมบ้านรับน้อง สมัยนั้นผมเองก็ไม่รุ้ว่าจะไปตามบ้านรับน้องที่มีคนเค้าจัดไว้ให้ดีไหม แต่สุดท้ายก็โดนพี่บ้านรับน้อง บ้านหนึ่งขโมยกระเป๋าไป ก็เลยตัดสินใจมาอยู่บ้านนี้ ชื่อ "บ้านเฮี้ยน"นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ผมได้เข้ามารู้จักกับ"ชมรมวาทศิลป์และมนุษยสัมพันธ์"



ชมรมวาทะ เป็นชมรมแรกของผมที่ได้เข้าร่วมในมหาลัยฯครับ ซึ่งเป็นชมรมที่ผมรักมากเลย เพราะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในมหาลัยฯช่วงแรกจากที่นี่ ชมรมวาทะจะมีการจัดงานใหญ่ คือ "โต้ชี่" หรือโต้วาทีประเพณีน้องใหม่ครับ ผมเองก็ได้มีส่วนร่วมกับเค้านิดหน่อยทั้งเป็นพิธีกรบ้าง จัดโต๊ะบ้าง ถ่ายรูปบ้าง










นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม "อบรมการพูด" ก็ได้ไปช่วยงานเค้านิดหน่อยครับ แต่ทุกๆปีชมรมเราจะมีกิจกรรม "แคมป์มนุษยสัมพันธ์" อีกหนึ่งงานใหญ่ของเราครับ แต่คำว่า "ค่าย" กับ "แคมป์" ไม่เหมือนกันนะครับ ในความคิดของผม คำว่า "ค่าย" คือ กิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมเข้ามาทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ช่วยเหลือผู้อื่น เช่น ค่ายบัญชี ครับ ส่วนคำว่า "แคมป์" คือ กิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมเข้ามาเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองในด้านต่างๆ นั่นคือ แคมป์นี้เองครับ






ในแต่ละปีแคมป์จะมีระยะเวลา 3-4 วันด้วยกัน แต่ละกิจกรรมจะพัฒนาความกล้า วัดความคิด สร้างความสามัคคี ช่วยให้ผู้ที่เข้ามาร่วมค้นพบความสามารถของตนเอง เป้าหมายของตัวเองก็เป็นได้ ขอบอกว่าสนุกมาครับ ใครที่ได้อ่านบล็อกนี้แล้วยังเรียนอยู่ก็ลองร่วมกิจกรรมแบบนี้ดูนะครับ สนุกไปอีกแบบครับ



อีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือ "บ้านรับน้อง" นี่แหละครับ เป็นกิจกรรมที่เราจะได้รู้จักกับน้องใหม่ ^^ ผมเองก็ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมทั้งเป็น แกนสันท์ มือกลอง และที่ขาดไม่ได้คือแรงงานฮะ ช่วยยกอาหาร น้ำให้กับน้องๆครับ ชมรมนี้ก็เปลี่ยนชื่อบ้านไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ "บ้านเฮี้ยน" "บ้านฟู" แต่มาหยุดที่ "บ้าน WORK" และคิดว่าคงไม่เปลี่ยนชื่ออีกแล้วมั้ง 555


อย่างไรก็ตาม ชมรมนี้ก็ไม่ได้มีเพียงแค่กิจกรรมสนุกๆ แต่ยังมีรุ่นพี่ รุ่นน้องและเพื่อนๆที่น่ารักมากมายครับ น้องๆที่ยังเรียนมหาลัยฯอยู่ก็ลองทำกิจกรรมชมรมซิครับ อาจจะได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเพิ่มเติมจากในห้องเรียน "การทำกิจกรรม ก็เหมือนกับการได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่นครับ"

ป.ล.ชมรมนี้สอนผมเล่นไพ่ "จับหมู" ครับ สนุกมากลองเล่นดูนะ ผมถึง -1000 ก่อนทุกทีเลย

วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554

"เจิม" ฉลองวันสงกรานต์ครับ

ไหนๆก็บอกเพื่อนๆแล้วว่าจะทำบล็อกตั้งแต่ธ.ค.53 ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้วมั้ง 555 เอาซะหน่อยปีใหม่ไทย 54 ช่วงสงกรานต์นี้ผมเองก็ยังคงไม่ได้ไปไหนมากมายนะ ไปทำบุญกับที่บ้านแล้วก็กลับมาอ่าน CFA กันต่อ

ก็เลยแบ่งเวลามาอัพบล็อกนี้เลยละกัน เพราะบล็อกเก่าก็เขียนมาตังแต่ปี 52 แล้วก็กลับมาเขียนอีกทีแต่เนื้อหาต่างกันนะ คงจะแบ่งกันอัพแหละครับ แต่อาจจะอัพทาง "เจอนี่" เยอะหน่อย เพราะมีแต่เรื่องกินๆเที่ยวๆอ่ะ 5555 บทความแรกที่ผมจะเขียนน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ กิจกรรมที่ได้ทำตอนเรียนมหาลัยฯครับ ซึ่งแบ่งเป็น 4 เรื่องหลักๆ คือ 1.การแข่งขันด้าน Finance 2.การแข่งขันด้าน Marketing 3.กิจกรรมแคมป์ อบรม สัมมนาต่างๆ 4.กิจกรรมชมรม และกิจกรรมที่เคยได้ร่วมทำตอนเรียน Finance ครับ แล้วไว้ว่างๆจะมาอัพใหม่นะครับบบบบบบบบบบบบ